วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เดิมพันกีฬา บอลโลกรอบคัดเลือกโซนยุโรป

เดิมพันกีฬา บอลโลกรอบคัดเลือกโซนยุโรป ไปดูที่กลุ่ม เอช วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม 2554 อังกฤษ เปิดสนามเวมบลีย์, ลอนดอน เอาชนะ มอนเตเนโกร 4 ประตูต่อ สิงโตคำราม ทีมนำกลุ่มเอช ต้องการสามแต้มเพื่อรักษาจ่าฝูงก่อนถึงนัดสุดท้าย เกมนี้แนวรุกสมบูรณ์ เวย์น รูนี่ย์ กับ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ กลับคืนทีม, แดนนี่ เวลเบ็ค พ้นโทษแบน และมีเซอร์ไพรส์ส่ง แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ลงตัวจริง ทางด้าน มอนเตเนโกร ทีมเยือน มีปัญหามากที่เดียว เมียร์โก วูชินิช กับ ประตูมือ 1 มลาเดน โบโซวิช บาดเจ็บ วลาดิเมียร์ โบโซวิช แบ็กซ้ายติดโทษแบน แต่ก็ได้ วลาดิเมียร์ โวลคอฟ และ ซาโว พาวิเชวิช พ้นโทษแบน และ สเตวาน โยเวติช ฟิตทันเวลา เกมในครึ่งแรก เจ้าบ้านทำเกมบุกอย่างต่อเนื่อง แต่ทำประตูไม่ได้ จบครึ่งแรก ยังเสมอ 0-0 เกมมาสนุกในครึ่งหลัง อังกฤษ มาได้ประตูนำ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 48 ทาวน์เซนด์ กระชากขึ้นทางขวาด้วยความเร็วสูง ก่อนเปิดเข้ากลางแฉลบไปหา เวลเบ็ค ยิงด้วยขวาเหน่งๆ ไม่ดีไปติดเซฟ โปเลคซิช แต่ยังไม่พ้นอันตราย รูนี่ย์ ซ้ำจ่อๆ เข้าประตูไป ถัดมานาทีที่ 62 เจ้าบ้านก็ยิงหนีห่างเป็น 2-0 สเตอร์ริดจ์ ตอกส้นจากริมเส้นฝั่งซ้ายให้ เวลเบ็ค หลุดทะลุเข้าเขตโทษ เปิดเข้ากลางไม่ตรงเพื่อนแล้ว แต่ บรังโก้ บอสโควิช สกัดผิดเหลี่ยมเสียบมุมประตูตัวเอง มอนเตเนโกร ยิงไล่มาเป็น 1-2 ในนาทีที่ 72 ฟาตอส เบชิราย ตัวสำรอง ยิงไกลบดเรียดไปเข้าทาง เดยัน ดัมยาโนวิช เปลี่ยนทางบอลผ่าน ฮาร์ท เข้าไป แต่ อังกฤษ ก็ยิงปิดท้าย 3-1 ในนาทีที่ 78 แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ประเดิมทีมชาติได้อย่างสวยหรู เล่นดีแล้วยังทำประตูแรกได้ด้วย เมื่อลากตะลุยขึ้นมาตรงกลางแล้วตะบันเท้าขวา 22 หลาติดไซด์ก้อยกระแทกเสาเหลี่ยมในเข้าประตูไปอย่างสวยงาม เจ้าบ้าน มาได้ประตูปปิดเกมห่างเป็น 4-1 นาทีที่ 93 เป็น แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ รับบทเพชรฆาตรสังหารเข้าไปไม่เหลือ จบเกม อังกฤษ เอาชนะ มอนเตเนโกร 4-1 รักษาจ่าฝูงกลุ่มเอชก่อนถึงนัดสุดท้ายต่อไป ส่วนทีมเยือนโอกาสลุ้นเกือบเป็นศูนย์แล้ว
เดิมพันกีฬา บอลโลกรอบคัดเลือกโซนยุโรป กลุ่ม เอฟ โปรตุเกส เปิดสนาม เอสตาดิโอ โชเซ่ อัลวาล้าด เสมอกับ อิสราเอล 1 ประตูต่อ 1 ทีมชาตโปรตุเกส รองจ่าฝูงกลุ่ม เอฟ เปาโล เบนโต้ ผู้จัดการทีมโปรตุเกส ส่ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กัปตันทีม, นานี่, เปเป้ และ ชูเอา มูตินโญ่ ลงตัวจริง ส่วน เอลี่ กัตต์มาน ผู้จัดการทีมอิสราเอล ส่ง เอลยานีฟ บาร์ด้า เป็นกองหน้าตัวเป้า เกมครึ่งแรก ผ่านไปเพียง 4 นาที เจ้าบ้านได้ลุ้นก่อน จากจังหวะที่ อูโก้ อัลเมยด้า โหม่งตั้งให้ รูเบน มิคาเอล ยิงเท้าซ้ายจากนอกกรอบเขตโทษ เข้าข้างตาข่าย ถัดมานาทีที่ 19 เปเป้ ได้บอล เปิดให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กอัปตันทีม ซัลโวเท้าซ้ายระยะไกล ไม่เข้ากรอบ และแล้วนาทีที่ 28 โปรตุเกสนำ 1-0 เปเป้ เปิดลูกเตะมุมมาเข้าหัว ริคาร์โด้ คอสต้า เซนเตอร์ฮาล์ฟโหม่งเผาขนเข้าประตูไป จากนั้นนาที 36 ยังเป็นเจ้าถิ่นเดินหน้าลุยใส่อยู่ฝ่ายเดียว เปเป้ จ่ายให้ รูเบน มิคาเอล ยิงเท้าขวาระยะไกลไปติด ดูดู อาอัวเต้ นายทวาร กัปตันทีมอิสราเอล จบครึ่งแรก โปรตุเกสนำ 1-0 ครึ่งหลัง นาทีที่ 52 เป็นโอกาสของทีมเยือน บาร์ด้า โยนบอลให้ อัมรี่ เบน ฮารุช ซัลโวเท้าซ้ายจากกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายไปติด รุย ปาตริซิโอ ผู้รักษาประตู ช่วงท้ายเกม นาทีที่ 86 อิสราเอลตีเสมอ 1-1 จากการเล่นผิดพลาดมหันต์ของ รุย ปาตริซิโอ ผู้รักษาประตูเปิดบอลให้ ทาล เบน ฮาอิม ซัดเท้าขวาเข้าไปอย่างง่ายดาย จบเกม โปรตุเกส เสมอ อิสราเอล 1-1 ส่งผลให้ โปรตุเกส รองจ่าฝูงกลุ่ม เอฟ การันตีโควต้าไปเล่นรอบเพลย์ ออฟ เรียบร้อยแล้ว ส่วน อิสราเอล ตกรอบคัดเลือก ฟุตบอลโลก 2014  เดิมพันกีฬา ไปดูผลฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 2014 โซนยุโรป เมื่อคืนกันดีกว่า เริ่มกันที่ กลุ่ม เอ โครเอเชีย แพ้ เบลเยียม 1 ประตูต่อ 2, เวลส์ ชนะ มาซิโดเนีย 1 ประตูต่อ 0, กลุ่ม บี เดนมาร์ก เสมอ อิตาลี 2 ประตูต่อ 2, มอลตา แพ้ สาธารณรัฐเช็ก  1 ประตูต่อ 4, อาร์เมเนีย ชนะ บัลแกเรีย  2 ประตูต่อ 1, กลุ่ม ซี หมู่เกาะแฟโร เสมอ คาซัคสถาน 1 ประตูต่อ 1, เยอรมัน ชนะ ไอร์แลนด์ 3 ประตูต่อ 0, สวีเดน ชนะ ออสเตรีย 2 ประตูต่อ 1, กลุ่ม ดี อันดอร์รา แพ้ โรมาเนีย 0 ประตูต่อ 4, เอสโตเนีย แพ้ ตุรกี 0 ประตูต่อ 2, ฮอลแลนด์ เปิดบ้านถล่มชนะ ฮังการี 8 ประตูต่อ 1, กลุ่ม อี ไอซ์แลนด์ ชนะ ไซปรัส 2 ประตูต่อ 0, สโลวีเนีย ชนะ นอร์เวย์ 3 ประตูต่อ 0, แอลเบเนีย แพ้ สวิตเซอร์แลนด์ 1 ประตูต่อ 2, กลุ่ม เอฟ ลักเซมเบิร์ก แพ้ รัสเซีย  0 ประตูต่อ 4, โปรตุเกส เสมอ อิสราเอล 1 ประตูต่อ 1, อาเซอร์ไบจาน ชนะ ไอร์แลนด์เหนือ 2 ประตูต่อ 0, กลุ่ม จี บอสเนีย ชนะ ลิกเตนสไตน์ 4 ประตูต่อ 1, กรีซ ชนะ สโลวาเกีย 1 ประตูต่อ 0, ลิทัวเนีย ชนะ ลัตเวีย 2 ประตูต่อ 0, กลุ่ม เอช ยูเครน ชนะ โปแลนด์ 1 ประตูต่อ 0, มอลโดวา ชนะ ซาน มาริโน่ 3 ประตูต่อ 0, อังกฤษ ชนะ มอนเตเนโกร 4 ประตูต่อ 1, กลุ่ม ไอ สเปน ชนะ เบลารุส 2 ประตูต่อ 1
เดิมพันกีฬา ฟุตบอลกระชับมิตร ทีมชาติฝรั่งเศส กลับมาคืนฟอร์มเก่งอีกครั้งหลังก่อนหน้านี้มีปัญหาเรื่องการจบสกอร์ โดยเกมนี้เปิดบ้านไล่ถล่ม ออสเตรเลีย ไปแบบสบายเท้า 6 ประตูต่อ 0 ในศึกฟุตบอลกระชับมิตร เมื่อวันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม ที่ผ่านมา ที่สนามปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ (ปารีส, ฝรั่งเศส) ดีดิเย่ร์ เดส์ชองส์ เซเล็กซิยอนเนอร์ทีมชาติฝรั่งเศสที่นำทีมไม่แพ้ 3 เกมซ้อนดร็อป คาริม เบนเซม่า ดาวยิงเรอัล มาดริด ที่ยิงประตูในชุดเลส์ เบลอส์ ไม่ได้มานาน 20 ชั่วโมง 26 นาที (1217 นาที) เป็นตัวสำรอง และ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ กองหน้าสุดหล่อจากอาร์เซน่อลลงตัวจริง ฟร้องค์ ริเบรี่ กับ ซามีร์ นาสรี่ นำเกมรุกก ส่วน โฮลเกอร์ โอเซียค กุนซือชาวเยอรมันของออสเตรเลียที่นำทีมแพ้ 3 นัดซ้อนพัก มาร์ค ชวาร์เซอร์ นายทวารวัย 41 ปีไม่ติดทีม ทำให้ มิทเชลล์ ลันเกรัค ผู้รักษาประตูวัย 25 ปี ได้เฝ้าเสาเป็นครั้งแรกของเขา ขณะที่ มาร์ค เบรสชาโน่, ทิม เคฮิลล์ และ ร็อบบี้ ครูส ดาวยิงไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ลงตัวจริง ฝรั่งเศสได้ประตูแรก นาทีที่ 7 จากจุดโทษ ฟร้องค์ ริเบรี่ สังหารเข้าประตูไป นาทีที่ 16 ฝรั่งเศสนำห่างเป็น 2-0 โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ นาทีที่ 27 ชิรูด์ ยิงเข้าไป 3-0  นาทีที่ 29 โยอัน กาบาย ยิงเป็น 4-0 นาทีที่ 48 ตราไก่นำไปอีกเป็น 5-0 มาติเยอ เดอบูชี่ นาทีที่ 51 ฝรั่งเศสนำห่าง 6-0 คาริม เบนเซม่า สรุปผลฟุตบอลกระชับมิตร ประจำวันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม 2556 ฝรั่งเศส ชนะ ออสเตรเลีย 6-0, เซอร์เบียฯ ชนะ ญี่ปุ่น 2-0, โมร็อกโก เสมอ แอฟริกาใต้ 1-1 และ ฟิลิปปินส์ แพ้ ไต้หวัน 1-2 เดิมพันกีฬา ฟุตบอลกระชับมิตร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น